ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ผ้ารอยมือ รอยเท้า หลวงพ่อร่วง วาจาศักดิ์สิทธิ์ วัดศาลาโพธิ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาด 12 x 18 นิ้วส้รางเมื่อตอนหลวงพ่อร่วง ท่านได้รับเชิญไปปลุกเสกพระบูชาที่บ้านคุณหมอสมสุข คงอุไร ที่กรุงเทพ ..........ประวัติของหลวงปู่ร่วงมีบันทึกไว้ว่า ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๔๗ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ตำบลบ้านหาร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คุณพ่อสุข-คุณแม่สุ่น พรมจรรย์ ได้ให้กำเนิดทารกน้อยเพศชายคนที่ ๖ ของครอบครัว ถึงแม้ว่าหลังจากที่เด็กชายร่วงเกิดได้ไม่กี่ปี ทางการจะเริ่มหันมาพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้ครอบครัวพรมจรรย์ซึ่งประกอบอาชีพเป็นชาวนาลืมตาอ้าปากได้ เพราะความที่ครอบครัวของท่านมีบุตรชายหญิงมากถึง ๙ คน ชีวิตในวัยเด็กของท่านจึงต้องช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง จวบจน ๑๒ ปีต่อมานั่นแหละครับเด็กชายร่วง จึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือ ณ วัดศาลาโพธิ์ ภายใต้ความดูแลของพระอาจารย์ใจแก้ว เจ้าอาวาสในขณะนั้น หลวงปู่ร่วงอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ วัดดอนแย้ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีพระครูรัตนโมฬี (หนู) วัดดอนแย้ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ขวัญ วัดบางกล่ำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์นวล วัดบางหวี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากที่อุปสมบทเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ใช้ชีวิตและเวลาในการศึกษาพระธรรมวินัยและคาถาอาคมจากพระอุปัชฌาย์ของท่านอยู่ถึง ๕ ปี จึงได้กราบลาพระอุปัชฌาย์กลับมาจำพรรษา ณ วัดศาลาโพธิ์ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน นอกจากพระอุปัชฌาย์หนูแล้ว ครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่ร่วงเคยเดินทางไปขอเรียนวิชาก็ยังมีอีกหลายองค์ครับ เช่นหลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณ หาดใหญ่ พระอาจารย์มหาลอย วัดแหลมจาก หาดใหญ่ ฯลฯ ซึ่งแต่ละองค์ได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ท่านพอสมควร แต่อาจารย์ที่หลวงปู่ร่วงได้เรียนมาแบบหนักๆ รับมาแบบเต็มๆ เป็นฆราวาสที่ชื่อ “พ่อทวดแก่ ศรีพรม” ครับ พ่อทวดแก่ ศรีพรม นอกจากจะเป็นบุคคลที่อายุยืนที่สุดในหมู่บ้านแล้ว ท่านยังได้รับการยกย่องว่าเป็นฆราวาสผู้เรืองเวทย์อีกด้วยครับ ว่ากันว่าด้วยรูปร่างของท่านที่สูงใหญ่น่าเกรงขามและมีสายตาที่แวววาวดุจดั่งดวงตาของเสือ ทำให้ไม่ค่อยมีผู้ใดกล้าสบสายตากับท่านเนื่องจากเกรงกลัวในตบะเดชะของท่านครับ หลวงปู่ร่วงเคยเล่าไว้ว่าพ่อทวดแก่ ศรีพรมเป็นผู้ที่เก่งในวิชาไสยศาสตร์ โดยเฉพาะวิชามหาอุตม์ต้องถือเป็นที่สุด ท่านเล่าว่าเคยมีชาวบ้านมายิงนกที่เกาะอยู่บนหลังคาบ้านของพ่อทวดแก่ ศรีพรม แต่เจ้ากรรมยิงเท่าไรก็ยิงไม่ออกแต่พอหันปากกระบอกปืนไปทางอื่นกลับยิงออก มีบางคนเคยฝืนทดลองยิงต่อปรากฏว่าปืนแตกเล่นเอา หน้าแตก มือแตกเลือดไหลไปตามๆ กัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พ่อทวดแก่ ศรีพรมเป็นที่เคารพยำเกรงของชาวบ้านเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเพียงความเลื่อมใสศรัทธาในวิชาไม่อาจเพียงพอกับการเป็นที่รักของชาวบ้านได้เท่ากับการมีคุณธรรม เพราะพ่อทวดแก่ ศรีพรม เป็นคนมีจิตใจดี เป็นนักปฏิบัติธรรมตัวยง ท่านสามารถแยกระหว่างธรรมกับกิเลสออกเทียบเคียงกัน โดยถือเอาประโยชน์สาธารณะเป็นหลักมากกว่าจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ท่านได้สอนคุณธรรมของผู้มีวิชาอาคมกับหลวงปู่ร่วงไว้ว่า.. ๑.ให้ใช้วิชาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โดยเฉพาะผู้ตกทุกข์ได้ยาก ๒.ห้ามใช้วิชาไปในการเบียนเบียนผู้อื่น ๓.ห้ามใช้วิชาโดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง จะว่าไปแล้วคำสอนของพ่อทวดแก่ ศรีพรมถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ เพราะในเรื่องของการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลนั้น ปรัชญาและเงื่อนไขมิใช่เพียงแค่ยึดถือเฉพาะในตำราเท่านั้น หากเริ่มต้นตั้งแต่ทำอย่างไรตนเองจึงจะมีคุณสมบัติในการสร้าง ทำอย่างไรจึงจะสร้างได้ขลัง และเมื่อขลังแล้ว ทำอย่างไรความขลังนั้นจึงจะขลังแบบถาวร และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรถึงจะให้ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลนั้น เป็นผู้ที่มีศีล มีคุณธรรมและมีสติตลอดเวลา ซึ่งประเด็นสุดท้ายนี้จะมีขึ้นไม่ได้หากผู้สร้างไม่เป็นตัวอย่างให้เห็นครับ หลวงปู่ร่วงเคยเล่าไว้ว่าหลังจากที่เรียนวิชาจากพ่อทวดแก่ ศรีพรมแล้ว ท่านก็ได้ใช้วิชาเหล่านั้นบ้างในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตามแต่จะได้รับการร้องขอจากชาวบ้าน จนกระทั่งในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ซึ่งเป็นระยะที่สงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้ขยายตัวเข้าสู่ทวีปเอเซียจนเกิดเป็นสงครามเอเซียมหาบูรพา ญี่ปุ่นได้อาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่านไปโจมตีมลายู ฯลฯ กองทัพผู้รุกรานได้ยกพลขึ้นบกบริเวณฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดสงขลาซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุด เพราะมีทางรถไฟจากหาดใหญ่ไปมลายู เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในยามศึก หลวงปู่ร่วงได้สร้างตะกรุดโทนและตะกรุด ๓ ดอกออกมาสำหรับแจกจ่ายให้กับทหารหาญที่ต้องเข้าร่วมรบในสงครามครั้งนี้ และก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะต่อมาทั้งตะกรุดโทนและตะกรุด ๓ ดอก ได้กลายมาเป็นกระบอกเสียงชั้นดีในการขยายเกียรติคุณของท่านให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ด้วยเหตุว่าตะกรุดที่แจกออกไปได้สร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดกับบรรดาเหล่าทหารหาญที่พกพาติดตัว หลายคนโดนทหารญี่ปุ่นยิงแต่ก็ไม่เข้าและก็อีกหลายคนโดนทหารญี่ปุ่นแทงด้วยดาบปลายปืนแต่ร่างกายก็ไม่ได้รับอันตราย เรียกได้ว่าทุกคนต่างรอดตายได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ คำว่า “ทหารผีดิบ” กลายเป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำว่า “ทหารไทย” สำหรับทหารญี่ปุ่น ไม่มีใครบอกได้ว่าเกียรติคุณของหลวงปู่ร่วงหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งนี้ขจรออกไปกว้างไกลแค่ไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ติดตามมาคือท่านต้องมานั่งจารนั่งเสกตะกรุดสำหรับแจกแก่ทหารไทยที่ต้องเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนามในกาลต่อมา ว่ากันว่าในสมัยนั้นทหารไทยสายเลือดสงขลาล้วนมีตะกรุดของท่านติดตัวเกือบทุกคน คุณสุกฤช เพื่อนรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับผม หลังจากเรียนจบเขาได้กลับไปช่วยพ่อแม่ค้าขายที่หาดใหญ่ เขาเล่าว่าได้เจอหลวงปู่ร่วงครั้งแรกเพราะขอให้เพื่อนสมัยเด็กๆ พาเข้าไปกราบ ต่อมาเขาได้เดินไปซื้อหนังสือที่ร้านใกล้ๆ บ้าน ก็ให้เผอิญสายตาดีเหลือบมองเห็นว่ามีรูปของหลวงปู่ร่วงแขวนบูชาอยู่ เขาว่าเมื่อแรกเห็นหลวงปู่ร่วงก็เกิดความรู้สึกว่าท่านเป็นพระใจดี เห็นครั้งที่สองถึงแม้จะเป็นรูปแต่ก็ยังคงความคิดแบบเดิมว่าท่านเป็นพระใจดี เห็นครั้งที่หนึ่งก็ชอบ เห็นครั้งที่สองก็ชอบ คราวนี้เขาเลยถือโอกาสเดินมาที่ร้านขายหนังสือร้านนี้ทุกวัน เพราะรู้สึกสบายใจจากการได้เห็นพระใจดี หลังจากที่เพาะบ่มความรัก ความศรัทธาอยู่นานหลายเดือน เขาจึงตัดสินใจตรงดิ่งไปที่วัดศาลาโพธิ์และขอให้หลวงปู่เป่าศรีษะเพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิต ซึ่งหลวงปู่ร่วงท่านเมตตาแก่คุณสุกฤชตามความประสงค์ คุณสุกฤชเล่าต่อว่าช่วงชีวิตของเขาหลังจากวันนั้นคือหมั่นหาโอกาสเข้าไปทำบุญกับหลวงปู่ร่วงอยู่เสมอๆ จวบจนหลวงปู่ร่วงมรณภาพ หลวงปู่ร่วง ธัมมธินโน มรณภาพในช่วงปลายปี ๒๕๓๙ ซึ่งคุณสุกฤชบอกว่าเรื่องมรณภาพนี้หลวงปู่ร่วงท่านทราบล่วงหน้ามานานแล้ว เพราะเขาเคยเห็นหลวงปู่ร่วงเขียนบอกวัน เดือน ปี ที่ท่านจะมรณภาพไว้บนกระดานดำก่อนหน้านี้มาหลายปีแล้ว ผมถามคุณสุกฤชว่า เรื่องของหลวงปู่ร่วงก็ผ่านมานานเป็นสิบปีแล้ว ถึงตอนนี้ถ้าจะให้เขาพูดถึงหลวงปู่ร่วง เขานึกถึงเรื่องอะไร คุณสุกฤชตอบว่า ถ้าพูดถึงหลวงปู่ร่วง เรื่องแรกที่สว่างในใจของเขามาตลอดเวลาคือ หลวงปู่ร่วงเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เขาเล่าว่าตอนที่เข้ามารับช่วงกิจการต่อจากพ่อแม่ ปรากฏว่าคุณพ่อของเขาถูกธนาคารฟ้องและกำลังจะถูกธนาคารยึดร้านที่เป็นทั้งบ้านและที่ตั้งของกิจการออกขายทอดตลาด เขาว่าพอรู้เรื่องพาลจะเป็นลม ผ่านความมึนงงไปหลายวันจึงนึกขึ้นมาได้ว่าคนแก่แถวบ้านเคยเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่ร่วงท่านเป็นพระวาจาประกาศิต พูดคำไหนเป็นจริงดังนั้น ห้ามแล้วไม่ฟังเป็นอันเสร็จทุกราย เขาจึงได้ให้เพื่อนสมัยเด็กๆ พาเข้าไปกราบนัยว่าจะให้หลวงปู่ดูดวง หลังจากที่หลวงปู่ฟังเรื่องนี้จบท่านพูดขึ้นว่า “ไอ้ลูกบ่าว ปรือโย้ ต้องให้เขา” คำพูดของหลวงปู่ร่วงเล่นเอาคุณสุกฤชจิตตกไปพักใหญ่ เขาว่าคำพูดของท่านเหมือนตะปูที่ตอกปิดความหวัง แต่ก็ไม่เป็นไรตอกปิดแล้วก็งัดขึ้นมาใหม่ได้ถ้าต้องการแก้ไข ดังนั้นในอาทิตย์ต่อมาเขาจึงเข้าไปกราบหลวงปู่ร่วงอีกครั้ง เขาเล่าว่าพอเริ่มต้นเล่าเรื่องเก่ายังไม่ถึงครึ่งเรื่อง หลวงปู่ร่วงได้พูดสวนขึ้นมาว่า “ไอ้ลูกบ่าว เอาเอิน ไม่ลำบาก” หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนต่อมา เพื่อนของเขาที่กรุงเทพได้ติดต่อมาว่ามีคนต้องการซื้อที่ดินแปลงปัญหาผืนนี้ เรื่องเล่าของคุณสุกฤชค่อนข้างยาวครับเพราะมีอุปสรรคหลายอย่างทั้งเรื่องของการเจรจาและเรื่องของคดีความ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็จบลงตรงที่คดีความจบ เขาได้ขายที่ดินแปลงนี้ออกไป ถึงสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบครัวต้องเปลี่ยนไปอยู่ในความครอบครองของคนอื่น แต่เขาก็ได้รับเงินติดมือกลับมาเกือบห้าล้านบาท ซึ่งมันก็เป็นจำนวนเงินที่มากพอให้เขาและครอบครัวขยับขยายด้านที่อยู่และลงทุนสืบกิจการต่อไปได้ถึงแม้ว่าธุรกิจมันจะเล็กลงไปกว่าเดิมอีกเยอะ เขาว่าเพียงแค่นี้ก็พอสมควรแก่กาลแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตครั้งนี้ทำให้เขาเชื่อมั่นเลยว่า การที่คนทั่วไปยกย่องหลวงปู่ร่วงว่าท่านเป็นพระที่มีวาจาประกาศิตนั้นเป็นเรื่องจริง คุณสุกฤชได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้หลวงปู่ร่วงฟัง ท่านตอบว่า “คนไหน บำเพ็ญอะไรมาก สะสมบุญอะไรมาก ก็มีบุญบารมีนั้นมาก” ครับ ฝากเงินก็ต้องได้ดอกเบี้ยรับ กู้เงินก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยจ่าย. เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมได้นั่งคุยเรื่องหลวงปู่ร่วงกับรุ่นพี่ท่านหนึ่ง เป็นอดีต บก.หนังสือพระเครื่อง แอบคิดในใจว่าเขาน่าจะมีพระหรือตะกรุดของหลวงปู่ร่วงอยู่บ้าง หลังจากที่ผมฟังเรื่องเล่าของเขาจบลง ผมต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรื่องนี้ช่วยเพิ่มศรัทธาหรือเรื่องนี้โชคชะตากลั่นแกล้งกันแน่ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งที่คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก นำโดยคุณหมอสมสุข คงอุไร ได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลขึ้นที่สำนัก ในพิธีดังกล่าวคุณหมอสมสุขได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่ทรงอิทธิคุณหลายองค์มาร่วมปลุกเสก เช่น หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า หลวงพ่อแก้ว วัดโคกโดน ฯลฯ ร่วมทั้งหลวงปู่ร่วง วัดศาลาโพธิ์ด้วย รุ่นพี่ท่านนี้เล่าว่าเมื่อพิธีพุทธาภิเษกเริ่มไปได้สักระยะหนึ่ง เสียงภาษาใต้ของหลวงปู่ร่วงก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ “พอแล้วๆ แค่นี้ลูกระเบิดลงก็ไม่พรือ คาถาทำสามวันก็ไม่หมด” พูดจบท่านก็หยิบตะกรุดออกจากย่าม ส่งให้กับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ และหันมาบอกกับรุ่นพี่ท่านนี้ที่แบบมืออยู่ข้างๆ ท่านเหมือนกัน “หมดแล้ว ไอ้ลูกบ่าวคนนี้มันมานั่งเฝ้ากูตั้งแต่เช้าแล้ว” เรื่องนี้สรุปง่ายๆ ครับว่าในเมื่อเขาไม่มี ผมก็ไม่ได้เฉกเช่นเดียวกัน จริงอยู่ครับถึงแม้ทุกวันนี้เรื่องราวของหลวงปู่ร่วงในบางเรื่องจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่ยืนยันได้ว่าปาฏิหาริย์ในองค์หลวงปู่ร่วงมีจริงและเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ไม่มีเครื่องมือช่วยจำอะไรจะดีไปกว่าประสบการณ์ที่แต่ละคนได้ประสบ มนุษย์เราเกิดมาต้องได้รับทั้ง “ความสุขและความทุกข์” ทั้ง “เคราะห์ดีและเคราะห์ร้าย” ปะปนกันไป แต่เมื่อมีความทุกข์หรือเคราะห์ร้ายแบบสุดๆ แล้ว เราควรจะทำอย่างไร บางทีเรื่องนี้เครื่องรางของขลังอาจตอบคำถามแก่เราได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพียงแต่ขอให้เรารับรู้ด้วยความเข้าใจ รับรู้ด้วยองค์ความรู้ที่เราวินิจฉัยไตร่ตรองเองได้และรับรู้ด้วยประสบการณ์ในอดีตของเราทุกคน “คนเรามักจะจำแม่นเสมอ โดยเฉพาะช่วงที่ชีวิตกำลังเดินอยู่บนเส้นด้าย” ข้อมูลจาก....http://www.oknation.net/blog/sitthi/2011/05/12/entry-1
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกรุงไทย สาขาสงขลา ออมทรัพย์
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสงขลา ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านส.ศิริวัฒน์
ส.ศิริวัฒน์
รับเช่า-ให้เช่า รับจัดหา พระเครื่อง&เครื่องรางของขลัง โซนภาคใต้ โดยเฉพาะสายอาจารย์ชุม ไชยคีรี พระเครื่องสายเขาอ้อ เกจิอาจารย์สายสงขลา และนครศรีธรรมราช รับประกันพระแท้ตามมาตรฐานสากล โทร 099-3649439
เบอร์โทร : 099-3649439
อีเมล : weerasak1986@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม