จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | เครื่องรางของขลัง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ตามความเห็นของขุนอาเทศคดี(กลอน มัลลิกะมาส)เขียนไว้ในบทความเรือง “เบี๊ยและเงินตราพดด้วงในเมืองนครศรีธรรมราช “ในหนังสืออนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพขุนอาเทศคดี”และอาจารย์นะมา โสพาพงศ์ ได้เขียนบทความ เรือง”เงินตรานโม” ในสารนครศรีธรรมราช เดือน กรกฏาคม 2514 กล่าวถึงเรืองการเกิด”เฟื้องเงิน”ตรานโมไว้ว่า เงินตรานโมมีมานานแล้ว คือตั้งแต่ครั้งพระยาศรีธรรมโศกสร้างเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณกว่า 1,000 ปี มาแล้ว(มยูร กาญจนสุวรรณ) โดยพระยาศรีธรรมโศกราชทรงปรึกษากับพระมหาเถระและอธิบดีพราหมณ์เพื่อหาอุบายป้องกันโรไข้ห่า ซึ่งยังเกิดอยู่บ่อยๆให้หายขาด พระมหาเถระและอธิบดีพราหมณ์ เห็นพร้อมกันให้เข้าพิธีทำ”เงินตรานโม”
การเข้าพิธีทำเงินตรานโมในครั้งนั้น ตามตำนานพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวว่า “เอาไกรลาสมาตอกตรานโม”คำว่าไกรลาส” พจนานุกรมหมายความว่าสีขาวเหมือนเงินยวง แต่ในตำนานจดหหมายเหตุที่ได้จากวัดเวียงสระกล่าวว่าใช้”เนาวโลหะผสมกัน”และซัดทอดว่านยาอันมีสรรพคุณวิเศษในเวลาเข้าพิธีหลอม การเข้าพิธีหลอมนั้นตั้งโรงพิธีในบริเวณวัดพระบรมธาตุด้านทิศบูรพา ตลอดเวลาที่เริ่มผสมแร่ธาตุแลซัดว่ายาจนนำเข้าพิมพ์ตอกตรานโม พระภิกษุสงฆ์และพรามหณ์จะต้องเข้าพิธีตามลัทธิ มีสวดพระพุทธคุณและบูชาเทพยดาจนสำเร็จให้ได้จำนวนเงินตรานโม 9 บาตร เมือครบแล้วนำเงินตรานโมทั้ัง 9 บาตร ไปเข้าโรงพิธีอาฏานา(คือตั้งพิธีให้สวดอาติยสูตร สำหรับขับผี เสนียดจัญไร เมืองนครเคยทำกันมาแต่โบราณกาล ในเดือน 4 ของทุกปี เพิ่งมาเลิกเมื่อต้นรัชกาลที่ 7)ซึ่งแต่งไว้ ณ เชิงพระมหาเจดีย์เบื้องบูรพาทิศอีกครั้งหนี่ง ทั้งฝ่ายพุทธศาสนาและไสยศาสตร์ต้องทำพิธีอาฎานามีกำหนด 9 วัน 9 คืน ในบาตรเงินตรานโมทั้ง 9 นั้น ใช้หล่อน้ำไว้ด้วย ถือว่าเป็นน้ำพิธีเพื่อใช้กับเงินตรานโมขับไล่ผีไข้ห่าและเสนียดจัญไรได้ เมื่อเข้าพิธีครบกำหนดแล้ว พระมหาเถระผู้ทรงคุณวิเศษพร้อมด้วยพราหมณ์นำบาตรเงินตรานโมทั้ง 9 บาตรแยกย้ายไปกระทำพิธีอาถรรพเวท ฝังไว้ที่ประตูเมือง ทั่ง 9 และตามใบเสมากำแพงเมืองโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทั้งยังได้โปรยปรายเงินตรานโมและพรมน้ำมนตราธิคุณนั้นด้วย ตามถนนหนทางและสถานที่สำคัญทั่วเมือง เวียงวัง น้ำมนต์โปรยพรมโดยทั่้ว ส่วนที่ยังเหลือแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป และขณะที่ได้นำเงินตรานโมไปกระทำกิจอาถรรพเวทย์นี่ ทางโรงพิธีในวัดพระบรมธาตุ ทั้งฝ่ายพุทธศาสนาและพรหมณ์ยังคงสวดมนต์ร่่ายเวท และยิงพลุอยู่จนกระทั้งเสร็จพิธี ก็เป็นการเสร็จพิธีขับผีไข่ห่าและล้างเสนียดจัญไรของราชธานีแล้วโดยบริบูรณ์แต่นั้นมาไข้ห่ามิได้เกิดขึ้นอีกเลย ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขประกอบการทำมาหากินตั้งภูมิฐานมั่นคงไพศาลยิ่งขึ้นตามลำดับ เงินตรานโมที่ทำในครั้งนั้นมีสองชนิดคือ 1.เงินตาไก่(เฟื้องตาไก่)มีขนาดลักษณะดุจสัณฐานตาไก่ 2.เงินขี้หนู(เฟื้องขี้หนู)มีขนาดเขื่องกว่า รูปยาวรีกว่าชนิดตาไก่เล็กน้อย ส่วนผสมของเงินตรานโม จากตำนานจดหมายเหตุที่ได้จากวัดเวียงสระ เขาบอกว่าใช้”เนาวโลหะ”และ” สัตตโลหะ”ผสมกัน เนาวโลหะท่านผู้เฒ่าเล่าว่า การใช้แร่ธาตุผสมเป็นวัตถุคุ้มกันภัยนั้นในตำรามีอยู่หลายวิธี เช่น สัตตโลหะ ใช้แร่ธาตุผสมกัน 7-9 อย่าง เนาวโลหะใช้แร่ธาตุผสมกัน 9 อย่าง คือ 1.ทองคำ 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 1063 องศา 2.ทองขาว(ทองอุไร) 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 1774 องศา 3.ทองแดง 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 1083 องศา 4. เงิน 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 961 องศา 5.เหล็ก 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 1535 องศา 6.สังกะสี 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 419 องศา 7. ปรอท 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 357 องศา 8.พลวง 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 327 องศา 9.ตะกั่ว 1 มีจุดหลอมเหลวที่ 631 องศา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |